Home » สินค้า » ตู้สำนักงานเคลื่อนที่ (ชนิดผนัง ISO Wall)

สำนักงานเคลื่อนที่ (Iso Wall)

บ้านสำเร็จรูป สะดวก งบไม่บานปลาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในยุคนี้

บ้านน็อคดาวน์ คืออะไร มีกี่ประเภท เจาะลึกเรื่องราว ข้อควรรู้เกี่ยวกับบ้านน็อคดาวน์ได้ที่นี่

บ้านสำเร็จรูป หรือบ้านน๊อคดาวน์ หรือหลายท่านอาจเรียกว่าบ้านเหล็ก บ้านคอนเทนเนอร์ ก็สามารถเข้าใจได้ ว่าคือบ้านสำเร็จรูปหรือบ้านน๊อคดาวน์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้นั่นเอง ปัจจุบันคนหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สำเร็จรูปกันมากขึ้น เพราะง่าย เห็นผลงาน หรืองานสำเร็จก่อนแล้วจึงจ่ายเงินงวดสุดท้าย ลดความเสี่ยงงานไม่จบไปได้เยอะ อีกทั้งสะดวกสบาย ไม่ต้องสร้างบ้านหลังเล็กในพื้นที่บ้านของท่านเอง เช่น ไม่ต้องกังวลว่าผู้รับเหมา คนงาน ช่างก่อสร้างจะใช้พื้นที่บ้านของท่านในการทำงาน ซึ่งใช้เวลาในการทำงานกว่าบ้านหลังหนึ่งจะเสร็จก็ประมาณ 30 วัน นี่คือบ้านหลังเล็ก แต่ถ้าหลังใหญ่กว่านั้นก็จะนานกว่านั้น อีกทั้งเรื่องการขอใช้ห้องน้ำ หรือขยะ เรื่องความสะอาด เรื่องการเคลียร์คราบปูน หรือสีที่ต้องมีการเลอะเปรอะบ้างเป็นธรรมดา แต่ไม่มีใครชอบให้มาเลอะในบ้าน

ดังนั้น การที่เราสั่งสร้างบ้านสำเร็จรูปหรือน็อคดาวน์ ให้สำเร็จจากโรงงานผู้ผลิตมาเลย จึงเป็นทางเลือกที่นิยมมากๆ ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงช่วงนี้ และคาดว่าต่อไปก็จะเป็นในทิศทางเดียวกัน เพราะได้พิสูจน์แล้วว่า บ้านสำเร็จรูป หรือบ้านน็อคดาวน์ได้ตอบโจทย์คนอยากมีบ้าน แก้ปัญหาที่ลูกค้าไม่ต้องการได้เยอะมากๆ ที่สำคัญ ลูกค้าหลายท่านมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับผู้รับเหมามาก่อน จะเข้าใจเลยว่า ทำไมจึงต้องหันมาใช้บ้านสำเร็จรูปสร้างจากโรงงาน แต่ทั้งที การสั่งสร้างบ้านสำเร็จรูป หรือบ้านน็อคดาวน์ก็ต้องเลือกผู้ผลิตที่ได้รับความเชื่อถือ มีประสบการณ์และเป็นที่ยอมรับ จะรู้ได้อย่างไร ว่าใครมีประสบการณ์ ใครได้รับความน่าเชื่อถือ? ท่านสามารถดูจาก Profile หน้าเว็บของผู้ผลิตนั้นๆ เช่น SCG Heim ได้รับความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว เพราะเป็นบริษัทใหญ่ที่หันมาผลิตบ้านสำเร็จรูปขนาดใหญ่ขาย หรือเช่นบริษัทฯ ของเรา BOXMODi ในนามของบริษัท คอนเทนเนอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเปิดบริการทางด้านบ้านสำเร็จรูปโดยตรงมาเกิน 10 ปีแล้ว หรือดูรายชื่อลูกค้าที่เป็น Site Reference ได้ว่ามีบริษัทใหญ่ๆ ใครให้ความไว้วางใจบ้าง โดยทั่วไปแล้วบริษัทใหญ่จะ จะมีที่ดินที่เป็นของตัวเอง มีตัวตน มีหลักแหล่ง ไม่หนีหายไปไหน ก็จะสะท้อนถึงงานบริการที่ดีที่ท่านจะได้รับด้วยเช่นกัน ดังนั้น ท่านก็จะพิจารณาได้แล้วว่า ควรเลือกซื้อจากผู้ผลิตรายใด

BROWSE & CALL US

เลือกสินค้าที่คุณต้องการ

สนใจชิ้นไหนสอบถามได้ที่ฝ่ายขาย

061 9466 939
@boxmodi

MAKE YOUR STYLE

บ้านน็อคดาวน์ กับสไตล์ที่คุณชอบ

บ้านน็อคดาวน์ กับประโยชน์ในการนำไปใช้งาน

กลุ่มลูกค้าบ้านใช้เอง

บ้านน็อคดาวน์ กับประโยชน์ในการนำไปใช้งาน

กลุ่มลูกค้าธุรกิจ

THINK TO KNOW

ข้อควรรู้เกี่ยวกับบ้านสำเร็จรูป หรือบ้านน็อคดาวน์

ABOUT PRODUCT

บ้านสำเร็จรูป หรือบ้านน็อคดาวน์คืออะไร

บ้านสำเร็จรูป หรือ บ้านน็อคดาวน์ คือ บ้านโครงสร้างเหล็ก ซึ่งที่ผ่านมาเราจะคุ้นเคยกับ 1.บ้านโครงสร้างไม้ 2.บ้านโครงสร้างปูน แต่ด้วยนวัตกรรมโครงสร้างเหล็ก และวัสดุทดแทนซีเมนต์และไม้ ซึ่งเราเรียกว่า “ไฟเบอร์ซีเมนต์” เข้ามาเปลี่ยนวิถีการสร้างบ้านให้สามารถยก ย้ายได้ และมีน้ำหนักที่เบากว่าปูนมาก และสร้างได้เร็วกว่ามากเช่นกัน จึงมีข้อ 3.บ้านโครงสร้างเหล็ก

PRODUCT ADVANTAGES

ข้อดีของบ้านน็อคดาวน์

ข้อดีของบ้านสำเร็จรูป หรือบ้านน็อคดาวน์ มีหลายอย่างด้วยกัน เมื่อรู้แล้วจะรู้ว่าทำไมบ้านน็อคดาวน์จึงเป็นที่นิยม แพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และฝั่งยุโรป ทำแม้กระทั้งบ้านน็อคดาวน์ลอยน้ำกันแล้วด้วย

สร้างเสร็จเร็ว แล้วแต่ขนาด ถ้าขนาดเล็ก 9-18 ตรม. จะใช้เวลาในการสร้างไม่เกิน 7 วัน และถ้าขนาดใหญ่พื้นที่ 40-60 ตรว. จะใช้เวลาสร้างประมาณ 45 วัน

คุมงบประมาณได้แน่นอน ไม่บานปลาย

ใช้เวลาสร้างบ้านน็อคดาวน์ที่โรงงาน แต่จะยกมาตั้งที่บ้านลูกค้าใช้เวลาเพียง 1-2 วันเท่านั้น

หน้างานลูกค้าจะสะอาด ไม่ทิ้งคราบปูน ทราย หรือย่ำหญ้าตาย

ลูกค้าไม่ต้องเผชิญกับคนแปลกหน้า เป็นหลักอาทิตย์ หรือหลักเดือน

ควบคุมระยะเวลาในการสร้างได้ชัดเจน

ไม่โดนผู้รับเหมาทิ้งงาน ถ้าสั่งสร้างกับบริษัทที่มีตัวตน

ได้รับบริการหลังการขายจากบริษัทผู้ผลิตบ้านน็อคดาวน์

สำคัญที่สุด คือ “บ้านน๊อคดาวน์” ย้ายได้!

ABOUT PRODUCT

บ้านสำเร็จรูป กับบ้านน็อคดาวน์แตกต่างกันอย่างไร

บ้านสำเร็จรูป กับบ้านน็อคดาวน์ ไม่แตกต่างกัน! เพราะคือบ้านประเภทโครงสร้างเหล็กเหมือนกัน ยกย้ายได้เหมือนกัน

PROTECT PRODUCT

วิธีการดูแลรักษาบ้านน็อคดาวน์

บ้านน็อคดาวน์ เป็นทางเลือกให้กับคนที่ต้องการที่พักพิงแบบไม่ถาวร อย่างร้านกาแฟ รีสอร์ท หรือ บ้านพักคนงาน แต่หากได้รับการดูแลรักษาที่ดี ก็จะมีอายุยาวนานได้มากกว่าปกติ ซึ่งผู้ที่เคยมีบ้านน็อคดาวน์ต่างมาแชร์ประสบการณ์เล่าไว้ในกระทู้สร้างบ้านตามโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ อันจะสรุปความได้ 5 ข้อ ต่อไปนี้

1. ทาสีเพื่อป้องกันสนิมให้กับเสา
ตัวโครงเหล็กที่เป็นเสา จะมีอายุการใช้งานตามโครงสร้างของเหล็ก เสริมสร้างความแข็งแรงได้ด้วยการทาสีป้องกันสนิมทุก ๆ 2 ปี เพื่อป้องกันความชื้นไม่ให้กัดโครงเสา แต่หากเสาบางต้นมีอาการที่เริ่มแตกแล้วให้เปลี่ยนทันที ไม่เช่นนั้นแล้วบ้านน็อคดาวน์อาจจะถล่มลงมาก็ได้

2. ทำระบบป้องกันความชื้นจากการอยู่อาศัย
ตัวกระเบื้องหรือฝ้า ที่นำมาตกแต่ง อาจจะมีชิ้นส่วนที่ไม่ป้องกันน้ำรั่วซึม จากการถูพื้น หรือความชื้นจากเครื่องปรับอากาศ ก่อนจะปูกระเบื้องให้เลือกกาวยาแนวที่ป้องกันน้ำซึม หรือใช้ ซีเมนต์ยืดหยุ่น ฉาบก่อนลงปูกระเบื้อง จะทำตั้งแต่แรก หรือรื้อมาซ่อมแซมก็ได้

3. ซ่อมแซมพื้นแตก
หากจะอยู่อาศัยในบ้านน็อคดาวน์ ใช้เป็นที่นั่งที่นอน ต้องป้องกันปัญหารอยพื้นแตกให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีสัตว์เลื้อยคลานขึ้นมาตามรูร่องได้ เมื่อเจอพื้นแตกต้องรื้อพื้นทำใหม่ ขนาดของบ้านน็อคดาวน์ที่ไม่ใหญ่มากนักจะมีงบประมาณปรับปรุงที่ไม่แพง ก่อนลงพื้นปูกระเบื้องใหม่ให้ป้องกันร่องต่าง ๆ ด้วยการฉาบซีเมนต์เพื่อปรับพื้น และหากต้องการทำระบบป้องกันความชื้น ใช้ซีเมนต์ยืดหยุ่น ผลิตภัณฑ์จระเข้ เฟล็กซ์ชิลด์

4. หน้าต่างรั่ว
หน้าต่างรั่วจะทำให้น้ำเข้า รอยกรอบ ขอบประตู หน้าต่าง จะมีรอยหยดน้ำ นำไปสู่คราบเชื้อรากำจัดยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตกแต่งภายในด้วยวัสดุที่เป็นไม้อัด ไม่ป้องกันการซึมของน้ำ จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาแน่นอน การอุดรูรอยหน้าต่างรั่ว สามารถใช้ซิลิโคนอุดได้ มีซิลิโคน สีเทา สีขาว ที่ไม่ทำให้ดีไซน์เดิมของบ้านน็อคดาวน์ของคุณผิดเพี๊ยน และป้องกันแสงแดด แสง UV ได้เป็นอย่างดี อย่าง จระเข้ โพลี ยู ซีล เป็นต้น ใช้ยิงที่รอยแตกเดิมเพื่ออุดปัญหาน้ำเข้าได้ทันที แห้งในไม่กี่นาทีเท่านั้น

5. ฉนวนกันความร้อน
บ้านน็อคดาวน์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี อาจเกิดปัญหาระบายความร้อนไม่ดี เพราะหลังคาเสื่อมจากแสงแดด แต่หากตัวบ้านไม่มีปัญหา ก็รื้อหลังคา ติดเทปกันความร้อนได้ ด้วยงบประมาณไม่กี่พันบาทเท่านั้น จะยืดอายุการใช้งานบ้านน็อคดาวน์ได้อีกนาน

PROTECT PRODUCT

วิธีการดูแลรักษาบ้านน็อคดาวน์2

บ้านน็อคดาวน์ เป็นทางเลือกให้กับคนที่ต้องการที่พักพิงแบบไม่ถาวร อย่างร้านกาแฟ รีสอร์ท หรือ บ้านพักคนงาน แต่หากได้รับการดูแลรักษาที่ดี ก็จะมีอายุยาวนานได้มากกว่าปกติ ซึ่งผู้ที่เคยมีบ้านน็อคดาวน์ต่างมาแชร์ประสบการณ์เล่าไว้ในกระทู้สร้างบ้านตามโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ อันจะสรุปความได้ 5 ข้อ ต่อไปนี้

1. ทาสีเพื่อป้องกันสนิมให้กับเสา
ตัวโครงเหล็กที่เป็นเสา จะมีอายุการใช้งานตามโครงสร้างของเหล็ก เสริมสร้างความแข็งแรงได้ด้วยการทาสีป้องกันสนิมทุก ๆ 2 ปี เพื่อป้องกันความชื้นไม่ให้กัดโครงเสา แต่หากเสาบางต้นมีอาการที่เริ่มแตกแล้วให้เปลี่ยนทันที ไม่เช่นนั้นแล้วบ้านน็อคดาวน์อาจจะถล่มลงมาก็ได้

2. ทำระบบป้องกันความชื้นจากการอยู่อาศัย
ตัวกระเบื้องหรือฝ้า ที่นำมาตกแต่ง อาจจะมีชิ้นส่วนที่ไม่ป้องกันน้ำรั่วซึม จากการถูพื้น หรือความชื้นจากเครื่องปรับอากาศ ก่อนจะปูกระเบื้องให้เลือกกาวยาแนวที่ป้องกันน้ำซึม หรือใช้ ซีเมนต์ยืดหยุ่น ฉาบก่อนลงปูกระเบื้อง จะทำตั้งแต่แรก หรือรื้อมาซ่อมแซมก็ได้

3. ซ่อมแซมพื้นแตก
หากจะอยู่อาศัยในบ้านน็อคดาวน์ ใช้เป็นที่นั่งที่นอน ต้องป้องกันปัญหารอยพื้นแตกให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีสัตว์เลื้อยคลานขึ้นมาตามรูร่องได้ เมื่อเจอพื้นแตกต้องรื้อพื้นทำใหม่ ขนาดของบ้านน็อคดาวน์ที่ไม่ใหญ่มากนักจะมีงบประมาณปรับปรุงที่ไม่แพง ก่อนลงพื้นปูกระเบื้องใหม่ให้ป้องกันร่องต่าง ๆ ด้วยการฉาบซีเมนต์เพื่อปรับพื้น และหากต้องการทำระบบป้องกันความชื้น ใช้ซีเมนต์ยืดหยุ่น ผลิตภัณฑ์จระเข้ เฟล็กซ์ชิลด์

4. หน้าต่างรั่ว
หน้าต่างรั่วจะทำให้น้ำเข้า รอยกรอบ ขอบประตู หน้าต่าง จะมีรอยหยดน้ำ นำไปสู่คราบเชื้อรากำจัดยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตกแต่งภายในด้วยวัสดุที่เป็นไม้อัด ไม่ป้องกันการซึมของน้ำ จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาแน่นอน การอุดรูรอยหน้าต่างรั่ว สามารถใช้ซิลิโคนอุดได้ มีซิลิโคน สีเทา สีขาว ที่ไม่ทำให้ดีไซน์เดิมของบ้านน็อคดาวน์ของคุณผิดเพี๊ยน และป้องกันแสงแดด แสง UV ได้เป็นอย่างดี อย่าง จระเข้ โพลี ยู ซีล เป็นต้น ใช้ยิงที่รอยแตกเดิมเพื่ออุดปัญหาน้ำเข้าได้ทันที แห้งในไม่กี่นาทีเท่านั้น

5. ฉนวนกันความร้อน
บ้านน็อคดาวน์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี อาจเกิดปัญหาระบายความร้อนไม่ดี เพราะหลังคาเสื่อมจากแสงแดด แต่หากตัวบ้านไม่มีปัญหา ก็รื้อหลังคา ติดเทปกันความร้อนได้ ด้วยงบประมาณไม่กี่พันบาทเท่านั้น จะยืดอายุการใช้งานบ้านน็อคดาวน์ได้อีกนาน